TrendForce เผยผลสำรวจราคา SSD ร่วงหนักติดต่อกันหลายเดือน คาดร่วงสูงสุด 20% สิ้นปี 2022

TrendForce

          TrendForce องค์กรรวบรวมข้อมูลสถิติด้านตลาดสินค้าไอที ออกมาเปิดเผยว่า อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลสำหรับคอมพิวเตอร์ประเภท SSD (Solid State Drive) กำลังประสบกับภาวะ “ล้นตลาด” อย่างหนัก ทำให้ราคาดิ่งลงตั้งแต่เข้าสู่ช่วงไตรมาส 3 ของปี 2022

และในปัจจุบันก็ยังไม่มีทีท่าว่าบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ทั้งหลายจะต้องการฮาร์ดแวร์ชนิดนี้เพิ่มขึ้นเลย ทำให้ในตลาดตอนนี้มี SSD เหลือค้างสต็อกอยู่เป็นจำนวนมาก และหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ไปจนถึงช่วงไตรมาส 4 ก็จะทำให้ราคา SSD ร่วงหนักสูงสุดได้ถึง 20% เลยทีเดียว

TrendForce คาด หลายบริษัทอาจปรับลดราคาสินค้าเพื่อระบายสินค้าช่วงไตรมาส 4

TrendForce

            TrendForceรายงานว่า ตลาดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลสำหรับคอมพิวเตอร์ประเภท SSD กำลังเข้าสู่ภาวะซบเซาอย่างหนักนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 (กรกฎาคม – กันยายน) ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์แม้แต่เจ้าเดียวที่สั่งให้ผลิต SSD เพิ่ม นั่นหมายความว่าในตลาดตอนนี้มี SSD เหลือค้างสต็อกอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ราคาเริ่มดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 – 3 เดือนมานี้  โดย SSD ในกลุ่มคอนซูเมอร์ทั่วไปลดลงไปถึง 10 – 15% ส่วน SSD ฝั่งองค์กรก็ลดลงไป 10 – 15% เท่ากัน ซึ่งน่าจะเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 2 ปี

TrendForce

            ยิ่งไปกว่านั้นTrendForce ยังคาดการณ์ว่า ราคา SSD น่าจะยังลดลงต่อเนื่องไปจนไตรมาส 4 โดย SSD ฝั่งคอนซูเมอร์และองค์กรน่าจะลดลงแตะระดับ 15 – 20% แม้แต่อุปกรณ์เก็บข้อมูลประเภท eMMC ก็น่าจะลดลงไปอีก 13 – 18% ด้วยเช่นกัน ขณะที่ฝั่งเวเฟอร์ก็ถูกมองว่าน่าจะลดลงไปอีก 20 – 25% ด้วย นั่นก็แปลว่าราคา SSD ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 น่าจะถูกลงกว่านี้ได้อีก

TrendForce

            ทั้งนี้ทาง TrendForceเปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้ตลาด SSD ซบเซาหนักถึงขนาดนี้ก็เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้หลายบริษัทหันมาเพิ่มกำลังการผลิตชิป NAND Flash ให้เพียงพอต่อความต้องการของสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์พีซีและสมาร์ทโฟน ฉะนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเหลือสินค้าล้นตลาดแบบนี้

สามารถติดตามข้อมูลดีๆ ได้ที่ เว็บเทคโนรอบวัน เพื่อสามารถรองรับและพัฒนาความรู้ได้รอบด้าน

Nitradee Tiritara

Learn More →